ไส้เลื่อน แบบไหน ชนิดไหน ที่น่ากลัว รู้สาเหตุ ป้องกัน ก่อนจะสาย !!
ไส้เลื่อน (Hernia) มาจากภาษาลาตินแปลว่า Rupture (แตก)
หลายคนคงคุ้นเคยกับความเชื่อที่ว่า “ถ้าไม่ใส่กางเกงในแล้วจะเป็นไส้เลื่อน” จริงไหม ไส้เลื่อนคืออะไร ไส้เลื่อนมีกี่ชนิด ไส้เลื่อนสังเกตอย่างไร
ไส้เลื่อนแก้ไขอย่างไร และไส้เลื่อนสามารถป้องกันได้อย่างไร
วันนี้ BCOSMO จะตีโจทย์ ไส้เลื่อนให้กระจ่างชัดเจน พร้อมวิธีรับมือและหลีกเลี่ยง อย่างถูกต้อง ถูกวิธี ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ฉบับหมอ ๆ แบบหมู ๆ
ไส้เลื่อน คือ สภาวะที่ลำไส้หรืออวัยวะภายในช่องท้องหรือเนื้อเยื่อบางส่วน
เคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม ผ่านผนังท้องที่บอบบางและอ่อนแอ (ผนังหน้าท้องไม่แข็งแรง) ออกมานอกช่องท้อง จะสังเกตเห็นเป็นลักษณะก้อนๆ ตุง นูนออกมาจากท้อง ส่วนที่เคลื่อนตัวออกไปยังคงถูกห่อหุ้มด้วยเยื่อหุ้มเดิมของมัน
อวัยวะที่เกิดไส้เลื่อนได้บ่อยคือ ลำไส้เล็ก ไส้เลื่อนสามารถเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
อันมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งไส้เลื่อนนั้น
แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดจากการไม่สวมใส่กางเกงในแต่อย่างใด
ไส้เลื่อนสามารถมีโอกาสเป็นได้ทุกเพศทุกวัย
หากแต่ผู้ชายอาจมีความเสี่ยงเป็นไส้เลื่อนมากกว่า โดยแบ่งเป็นสัดส่วนชายต่อหญิง
อยู่ที่ 5 : 1 ซึ่งไส้เลื่อนไม่อันตรายอย่างที่คิด
แต่ก็ไม่สามารถหายเองได้ต้องอาศัยการผ่าตัดจากแพทย์ศัลยกรรมผู้เชี่ยวชาญ
แล้วแต่กรณีหนักหรือเบาแตกต่างกันไปตามความรุนแรงและชนิดของไส้เลื่อน
www.paolohospital.com
สาเหตุของการเกิดไส้เลื่อน
สาเหตุของไส้เลื่อน เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความอ่อนแอของเยื่อบุช่องท้อง ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ที่มีมาแต่กำเนิด การผ่าตัดช่องท้องอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ และยิ่งไปกว่านั้น แรงดันภายในช่องท้องก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะไส้เลื่อนได้อีกเช่นกัน ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุของการเกิดไส้เลื่อนได้ดังนี้
ไส้เลื่อนที่เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด บางคนมีช่องระหว่างท้องกับลูกอัณฑะปิดไม่สนิท บางคนมีความอ่อนแอของผนังหน้าท้องแต่กำเนิด หรือบางคนผนังหน้าท้องเสื่อมสภาพตามอายุไข
ไส้เลื่อนที่เกิดจากแผลผ่าตัดบริเวณช่องท้อง เช่น การทำคลอดหรืออุบัติเหตุที่ช่องท้อง
ไส้เลื่อนที่เกิดจากการยกของหนัก
ไส้เลื่อนที่เกิดจากปัญหาระบบขับถ่าย เช่นท้องผูก
ไส้เลื่อนที่เกิดจากการไอหรือจามอย่างรุนแรง
ไส้เลื่อนที่เกิดจากการที่ผู้ป่วยเองหรือคนในครอบครัวเคยมีประวัติการเป็นไส้เลื่อนมาก่อน
ไส้เลื่อนที่เกิดจากผู้ป่วยเป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
ประเภทของไส้เลื่อน
- ไส้เลื่อนขาหนีบ (Inguinal hernia) ไส้เลื่อนที่ส่วนใหญ่พบได้ในเด็กโตและผู้ใหญ่ ประมาณ 1-2% ของประชากรทั่วไป ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 25% ไส้เลื่อนขาหนีบจะพบได้บ่อยที่สุด ถึง 75% จากชนิดของไส้เลื่อนทั้งหมด โดยแบ่งได้อีกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- Indirect inguinal hernia เกิดจากความผิดปกติตั้งแต่ตอนเป็นตัวอ่อนในครรภ์ อัณฑะที่อยู่ในช่องท้องจะเคลื่อนตัวลงมาอยู่ในช่องท้องบริเวณขาหนีบ และเคลื่อนตัวลงไปที่ถุงอัณฑะก่อนที่มารดาจะคลอดออกมาและช่องที่บริเวณขาหนีบก็จะปิดไป หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น คือ ช่องไม่ปิด ลำไส้ก็จะเคลื่อนตัวมาอยู่ในช่องนี้และบางครั้งอาจเคลื่อนลงไปจนถึงถุงอัณฑะได้ ถึงแม้จะเป็นความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด แต่การเกิดเป็นไส้เลื่อนได้นั้นมักจะพบเมื่อเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไปแล้ว แต่ในเด็กก็ยังสามารถพบได้บ้าง ส่วนเด็กที่คลอดก่อนกำหนดเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะมีโอกาสเป็นไส้เลื่อนชนิดนี้ได้มากกว่าเด็กที่คลอดตามกำหนดอีกด้วย
- Direct inguinal hernia เป็นไส้เลื่อนชนิดที่พบได้เฉพาะในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยสูงอายุ โดยเกิดจากเนื้อเยื่อพังผืดชื่อว่า Transversalis fascia ซึ่งอยู่บริเวณขาหนีบในตำแหน่งเฉพาะที่เรียกว่า Hesselbach triangle เกิดความหย่อนยานไม่แข็งแรง จึงทำให้ลำไส้เคลื่อนตัวดันพังผืดเหล่านี้ออกมาจนปรากฏเป็นถุงบริเวณขาหนีบ แต่จะไม่ลงไปอยู่ในถุงอัณฑะ
- ไส้เลื่อนที่สะดือ (Umbilical hernia) หรือ “สะดือจุ่น” เมื่อทารกคลอดออกมาแล้ว ผนังหน้าท้องตรงสะดือจะปิดไปตั้งแต่ชั้นของผิวหนัง ชั้นของกล้ามเนื้อ และมีชั้นของพังผืดเข้ามาปกคลุม ถ้าหากผนังหน้าท้องส่วนที่อยู่ใต้ชั้นของผิวหนังปิดไม่สนิทแล้ว บางส่วนของลำไส้ก็จะเคลื่อนตัวออกมาอยู่ใต้สะดือและดันจนสะดือโป่งได้ ซึ่งมักพบได้ในทารกแรกเกิด ถ้าเป็นทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีโอกาสพบได้มากขึ้น พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในอัตราส่วน 3:1 และส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายในอายุ 2 ปี โดยไม่ต้องทำอะไร นอกจากนี้ยังพบว่าทารกชาวผิวดำจะพบเกิดเป็นไส้เลื่อนชนิดนี้ได้มากกว่าทารกชาวผิวขาวถึง 8 เท่า
- ไส้เลื่อนกระบังลม (Hiatal hernia) พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเล็กน้อย และพบได้มากในวัยสูงอายุ เพราะเกิดจากกล้ามเนื้อและพังผืดของกระบังลมมีการหย่อนยานและเสียความยืดหยุ่น และมีปัจจัยเสี่ยงร่วมคือความดันในช่องท้องที่มากกว่าปกติ โดยสามารถแบ่งออกเป็นได้ 2 ชนิดย่อย ได้แก่
- Sliding hiatal hernia คือ การที่มีบางส่วนของกระเพาะอาหารนับตั้งแต่ส่วนต่อระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารเคลื่อนที่ผ่านรูบริเวณกระบังลม (เป็นทางที่หลอดอาหารลอดเข้าสู่ช่องท้อง) เข้าไปอยู่ในช่องอก
- Paraesophageal hernia คือ การที่มีบางส่วนของกระเพาะอาหารเคลื่อนที่ผ่านรูบริเวณกระบังลมซึ่งอยู่ข้างๆ รูที่เป็นทางผ่านของหลอดอาหาร
- ไส้เลื่อนตรงหน้าท้องเหนือสะดือ (Epigastric hernia) พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในอัตราส่วน 3:1 แต่พบได้ค่อนข้างน้อย โดยเกิดจากชั้นกล้ามเนื้อและพังผืดของผนังหน้าท้องส่วนบนเหนือสะดือไม่แข็งแรง เมื่อมีปัจจัยเสี่ยงคือความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นก็จะทำให้เนื้อเยื่อในช่องท้องเคลื่อนตัวผ่านผนังหน้าท้องที่อ่อนแอ แล้วดันออกมาตุงเป็นก้อนโป่งอยู่ที่บริเวณหน้าท้องได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อเยื่อไขมันภายในช่องท้อง มีเพียงส่วนน้อยที่จะมีส่วนของลำไส้ตามมาด้วย
- ไส้เลื่อนบริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบ (Femoral hernia) พบได้ค่อนข้างน้อยเช่นกัน และเกือบทั้งหมดจะพบแต่ในผู้หญิงเท่านั้น โดยเกิดจากบางส่วนของลำไส้เคลื่อนที่ผ่านรูที่เรียกว่า Femoral canal ซึ่งอยู่ตรงบริเวณต่ำกว่าขาหนีบลงมา ทำให้ลำไส้ลงมากองเป็นก้อนตุงอยู่บริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบ และมีปัจจัยเสี่ยงคือความดันภายในช่องท้องที่เพิ่มขึ้น
- ไส้เลื่อนตรงข้าง ๆ กล้ามเนื้อหน้าท้อง (Spigelian hernia) พบได้ในผู้หญิงมากกว่าในผู้ชายเล็กน้อย ส่วนมากพบตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไป โดยเกิดจากชั้นพังผืดที่มีชื่อว่า Spigelian fascia ซึ่งอยู่บริเวณข้าง ๆ กับกล้ามเนื้อหน้าท้องชื่อ Rectus abdominis เกิดความหย่อนยานไม่แข็งแรง เมื่อมีปัจจัยเสี่ยงคือความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ลำไส้เคลื่อนตัวดันออกมาปรากฏเป็นก้อนโป่ง
- ไส้เลื่อนภายในช่องเชิงกราน (Obturator hernia) พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในอัตราส่วน 6:1 แต่เป็นชนิดพบได้น้อยมาก โดยเกิดจากบางส่วนของลำไส้เคลื่อนที่ผ่านรู Obturator foramen ซึ่งอยู่ตรงกระดูกเชิงกราน ส่วนใหญ่จะเกิดในผู้หญิง เนื่องจากลักษณะทางกายวิภาคบริเวณเชิงกรานเอื้อต่อการเกิดมากกว่าในผู้ชาย
- ไส้เลื่อนที่เกิดหลังผ่าตัด (Incisional hernia) พบได้ในคน ทุกเพศทุกวัยที่เคยได้รับการผ่าตัดภายในช่องท้องมาก่อน (ประมาณ 2-10% ของผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัด) โดยเป็นไส้เลื่อนชนิดที่พบได้ในผู้ป่วยบางราย ก่อนผ่าตัดผู้ป่วยจะไม่มีก้อนตุงที่หน้าท้อง แต่ภายหลังจากได้รับการผ่าตัดช่องท้อง (อาจนานเป็นเดือนหรือเป็นปี) เมื่อแผลหายแล้ว กล้ามเนื้อและพังผืดของผนังหน้าท้องในบริเวณที่ผ่าตัดนั้นเกิดหย่อนยานกว่าปกติ จึงทำลำไส้เคลื่อนตัวดันออกมาตุงเป็นก้อนโป่งที่บริเวณแผลผ่าตัดได้
อาการที่พบได้ในผู้ป่วยไส้เลื่อน
- ไส้เลื่อนขาหนีบ
- มีก้อนตุงที่บริเวณขาหนีบหรือถุงอัณฑะ นุ่มๆ หยุ่นๆ (มักพบข้างขวามากกว่าข้างซ้าย)
- เห็นได้ชัดในขณะลุกขึ้นยืน ไอ จาม เบ่งถ่าย หรือยกของหนัก แต่เวลานอนจะหายไป
- มีลักษณะเป็นก้อนตุงๆ นุ่มๆ หยุ่นๆ ผลุบๆ โผล่ๆ
- ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน มิฉะนั้นอาจจะเกิดสภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้
- ไส้เลื่อนที่สะดือ
- จะดือจุ่นหรือโป่งเวลาร้องไห้
- เป็นมาตั้งแต่แรก ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
- จะหายเองได้ภายใน 2 ปี หากไม่หายต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน
- ไส้เลื่อนกระบังลม (Hiatal hernia)
- ส่วนใหญ่จะไม่มีการแสดงอาการ
- ส่วนน้อยจะมีอาการของโรคกรดไหลย้อน ได้แก่ แสบร้อนกลางอก จุกแน่นยอดอก คลื่นไส้ เรอบ่อย มีรสเปรี้ยวของกรดในคอ เป็นต้น
- อาจมีโอกาสเกิดภาวะไส้เลื่อนชนิดติดคาและไส้เลื่อนชนิดถูกบีบรัดได้
- ไส้เลื่อนตรงหน้าท้องเหนือสะดือ (Epigastric hernia)
- ทำให้คลำได้ก้อนที่บริเวณหน้าท้องเหนือสะดือ (มีโอกาสประมาณ 20% ที่คลำเจอก้อนได้หลายก้อน)
- ไส้เลื่อนบริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบ (Femoral hernia)
- สามารถคลำเจอก้อนที่บริเวณติดชิดกับขาหนีบแต่อยู่บริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบ
- ไส้เลื่อนตรงข้างๆ กล้ามเนื้อหน้าท้อง (Spigelian hernia)
- สามารถคลำเจอก้อนตรงข้างๆ กล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ไส้เลื่อนภายในช่องเชิงกราน (Obturator hernia)
- ผู้ป่วยมักจะมีอาการของลำไส้อุดตันเกิดขึ้นเฉียบพลัน แล้วหายไปได้เอง (เป็น ๆ หาย ๆ)
- มีส่วนน้อยจะคลำได้เป็นก้อนภายในช่องท้องน้อย
- อาจมีอาการปวดบริเวณต้นขาด้านในได้ หากผู้ป่วยยืดต้นขาออกไปด้านหลังหรือจับต้นขาแบะออก จะทำให้มีอาการปวด ในทางตรงกันข้ามหากงอต้นขาอาการปวดของผู้ป่วยก็จะบรรเทาลง
- ไส้เลื่อนที่เกิดหลังผ่าตัด (Incisional hernia)
- ผนังหน้าท้องในบริเวณที่ผ่าตัดนั้นเกิดหย่อนกว่าปกติ
- เห็นเป็นก้อนตุงขนาดใหญ่ตรงตำแหน่งแผลที่เคยผ่าตัดมาก่อน (ไม่มีอาการเจ็บปวด)
- จะเห็นเป็นก้อนได้ชัดในท่ายืนหรือท่านั่ง แต่เวลานอนก้อนจะเล็กลงหรือยุบลงไป
- มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
- จะเป็นอยู่จนกว่าจะได้รับการผ่าตัดเพื่อซ่อมผนังหน้าท้องให้เป็นปกติ
bangkokhatyai.com
การผ่าตัดไส้เลื่อน
การผ่าตัดไส้เลื่อน | การผ่าตัดแบบส่องกล้อง | การผ่าตัดแบบเปิด |
ข้อดี | – แผลขนาดเล็ก ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้างน้อย – ใช้เวลาพักฟื้นเร็ว – เจ็บปวดและสูญเสียเลือดน้อยกว่า | – ป้องกันไส้เลื่อนกลับไปเป็นซ้ำ ได้ดีที่สุด – ป้องกันการเกิดไส้เลื่อนขาหนีบได้ดีที่สุด |
ข้อเสีย | – ความเสี่ยงของการเกิดไส้เลื่อนซ้ำจะสูงกว่า การผ่าตัดแบบเปิด | – ใช้เวลาการพักฟื้นยาว – ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ปกติ อาจใช้เวลานานถึง 6 สัปดาห์ |
การรักษาไส้เลื่อน
- ใส่กางเกงในป้องกันไส้เลื่อน
- ใส่เข็มขัดป้องกันไส้เลื่อน
- ไม่สูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการอั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ เป็นระยะเวลานานๆ จนทนไม่ไหว
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
อันจะทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงอย่างกะทันหัน - ไม่เบ่งอุจาระหรือปัสสาวะรุนแรง โดยการกินอาหารที่มีไฟเบอร์หรือกากใย
ช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้น - ไปพบแพทย์เมื่อคุณป่วย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการไอเรื้อรังและไอถาวร
- ยกสิ่งของหนักโดยใช้สันหลังในการแบกรับน้ำหนัก อันจะทำให้เกิด
การเกร็งกล้ามเนื้อท้องมากเกินไป - หลีกเลี่ยงการยกน้ำหนักที่หนักเกินไปสำหรับคุณ
เข็มขัดป้องกันไส้เลื่อน
เข็มขัดป้องกันไส้เลื่อนผู้ชาย | เข็มขัดป้องกันไส้เลื่อนผู้หญิง |
· เข็มขัดป้องกันการเกิดโรคไส้เลื่อน · เหมาะสำหรับเด็กผู้ชาย · วัสดุทำจากผ้าฝ้าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง · หัวเข็มขัดทำจากพลาสติก เรียบ ไม่ทำให้เด็กทารกเจ็บ · ผ้ามีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง · สามารถระบายอากาศได้ 360 องศา · มีไซส์ S / M / L | · เข็มขัดป้องกันการเกิดโรคไส้เลื่อน · เหมาะสำหรับเด็กทารกผู้หญิงตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 2 ปี · วัสดุทำจากผ้าฝ้าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง · หัวเข็มขัดทำจากพลาสติก เรียบ ไม่ทำให้เด็กทารกเจ็บ · ผ้ามีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง · สามารถระบายอากาศได้ 360 องศา · มีไซส์ XXS , XS |
กางเกงในป้องกันไส้เลื่อน
สินค้า | กางเกงในไส้เลื่อน SIZE S | กางเกงในไส้เลื่อน SIZE M | กางเกงในไส้เลื่อน SIZE L | กางเกงในไส้เลื่อน SIZE XL |
คุณสมบัติ | · ใช้สำหรับสวมกางเกงในผู้ชาย · ช่วยป้องกันการเกิดโรคไส้เลื่อน · ออกแบบพิเศษสำหรับนักกีฬา หรือผู้ที่มีความเสี่ยงของการเกิดโรคไส้เลื่อน | |||
เหมาะสำหรับ | · ผู้ที่มีปัญหาไส้เลื่อน · ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดไส้เลื่อน · ผู้สูงอายุ · นักกีฬา | |||
ขนาดวัด | SIZE S 26-32″ | 66.0 – 81.3 cm. | SIZE M 32-38″ | 81.3 – 96.5 cm. | SIZE L 38-44″ | 96.5 – 111.8 cm. | SIZE XL 44-50″ | 111.8 – 127.0 cm. |
ขอบคุณที่มา
Medthai. “ไส้เลื่อน อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคไส้เลื่อน 7 วิธี !!”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://medthai.com/ไส้เลื่อน/. [13 ก.พ. 2019].
โรงพยาบาลนครธน. “การผ่าตัดไส้เลื่อนด้วยกล้อง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.nakornthon.com/surgical/knowledge.php?id=155&page=/. [13 ก.พ. 2019].
LINE TODAY . “ไส้เลื่อนลงไข่ เกิดจากการไม่ใส่กางเกงในจริงหรือ?”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://today.line.me/th/pc/article/ไส้เลื่อนลงไข่+เกิดจากไม่ใส่กางเกงใน+จริงหรือ-Y3O1gB. [13 ก.พ. 2019].